การใช้สารสนเทศก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของมนุษย์
1.ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบทางบวก
1.เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร
2.เป็นสังคมแห่งการสื่อสารเกิดสังคมโลกขึ้น
3.มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆในฐานข้อมูลความรู้
4.สร้างโอกาสให้คนพิการ
5.พัฒนาคุณภาพการศึกษา
6.การทำงานดีขึ้น
7.ได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น
ผลกระทบทางลบ
1.ก่อให้เกิดคามเครียดในสังคม
2.ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม
3.การมีส่วนร่วมในสังคมลดน้อยลง
4.การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
5.เกิดช่องว่างทางสังคม
6.เกิดการต่อต้านเทคโนโลยี
7.อาชญากรรมบนเครือข่าย
8.เกิดปัญหาด้านสุขภาพ
2.ปัญหาสังคมที่เกิดกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.1มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศมีไว้เพื่อให้มนุษย์บรรลุวัตถุประสงค์
2.2มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและสังคมต่างก็มีกระทบซึ่งกันและกัน
2.3มุมมองว่าเทคโนโลยีเป็นกลไกในการดำรงชีวิตของมนุษย์
3.แนวทางในการป้องกันและแก้ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
3.1ใช้แนวทางสร้างจริยธรรม
3.2สร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง
3.3ใช้แนวทางการควบคุมสังคมโดยใช้วัฒนธรรมที่ดี
3.4สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมชุมชน
3.5ใช้แนวทางการเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
3.6ใช้แนวทางการบังคับด้วยกฎระเบียบและกฎหมาย
4.ประเด็นการพิจารณาการใช้จริยธรรมเพื่อแก้ปัญหารสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
4.1ผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศ และทฤษฎีเรื่องจริยธรรม
4.2เทคโนโลยีสารสนเทศกับจริยธรรมและการเมือง
4.3เทคโนโลยีสารสนเทศกับจริยธรรมและความเป็นมนุษย์
วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
สรุปสาระสำคัญ บทที่่5 การจัดการสารสนเทศ
1.ความหมายการจัดการสารสนเทศ
หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหาและเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์การโดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆโดยเฉพาะเทคโนโยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการจัดการรวมทั้งมีนโยบาย หรือกลยุทธิ์ระดับองค์กรในการจัดการ
สาสนเทศ
2.ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
2.1 ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อุคคล
2.2 ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
1.ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ ใช้ในการวิเคราะห์ปัญหา ทางเลือกในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การกำหนดทิศททางขององค์การ
2.ความสำคัญด้านการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน
3.ความสำคัญด้านกฎหมาย การจัดการสารสนเทศเพื่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องสอดคล้องกับกฎหมาย กฎ ระเบียบและข้อบังคับทั้งระดับภายในและภายนอกองค์การ
3.การพัฒนาของการจัดการสารสนเทศ
3.1 การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ การจัดการสารสนเทศระบบมือ ใช้กำลังคนเป็นหลัก มักจะใช้กระดาษ จะมีการจัดหมวดหมู่ของเอกสารต่างๆแล้วแยกเก็บในตู้เอกสารเพื่อสะดวกต่อการค้นหา
3.2 การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์ มีขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการดูแลรักษา ดังนี้
1.การรวบรวมข้อมูล
2.การตรวจสอบข้อมูล
3.การประมวลผลข้อมูให้กลายเป็นสารสนเทศ
4.การดูแลรักาาสาารสนเทศ
5.การสื่อสาาร
4.แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ
4.1 ขอบเขตของการจัดการสารสนเทศ
- การรวบรวมสารสนเทศ เป็นการรวบรวม จัดเก็บสารสนเทศในรูปกระดาษหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากแหล่งต่างๆ
- การจัดหมวดหมู่ เป็นการนำสารสนเทศที่ได้รวบรวมข้อมูลและนำเข้าสู่ระบบมาจัดหมวดหมู่เพื่อการใช้ประโงทรัพยากรสารสนเทศ
- การประมวลผล เป็นการค้นหาและข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศที่ได้รวบรวมและจัดเก็บไว้
เพื่อจัดกลุ่ม จัดเรียง สรุปและวิเคราะห์ตามต้องการ
- การบำรุงรักษา เป้นการนำสารสนเทศที่จัดเก็บไว้มาใช้ซ้ำ
ปัจจัยสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
- เทคโนโลยี มุ่งเน้นเทคโนโลีสารสนเทศ เป็นปัจจัยในการจัดการด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อการประยุกต์ในงานต่างๆ
- คน ในานะองค์ประกอบของทุกหน่วยงาน เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการสารสนเทศ ครอบคลุมทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิัติงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ารสนเทศ
- กระบวนการ เป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน แนวปฏิบัติ วิธีที่ใช้ในการจัดการสารสนเทศ
- การบริหารจัดการ เป็นปัจจัยสำคัญของการจัดการสารสนเทศที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการจัดการในระดับกลยุทธิ์
5.การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับปรุงเพื่อให้ถูกต้องตามกฎระเบียที่วางไว้รวมถึงความต้องการที่จะเปิดใช้บริการใหม่ๆและเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
ที่มา : เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 0026 008 การจัดการสารนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน
หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหาและเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์การโดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆโดยเฉพาะเทคโนโยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการจัดการรวมทั้งมีนโยบาย หรือกลยุทธิ์ระดับองค์กรในการจัดการ
สาสนเทศ
2.ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
2.1 ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อุคคล
2.2 ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
1.ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ ใช้ในการวิเคราะห์ปัญหา ทางเลือกในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การกำหนดทิศททางขององค์การ
2.ความสำคัญด้านการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน
3.ความสำคัญด้านกฎหมาย การจัดการสารสนเทศเพื่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องสอดคล้องกับกฎหมาย กฎ ระเบียบและข้อบังคับทั้งระดับภายในและภายนอกองค์การ
3.การพัฒนาของการจัดการสารสนเทศ
3.1 การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ การจัดการสารสนเทศระบบมือ ใช้กำลังคนเป็นหลัก มักจะใช้กระดาษ จะมีการจัดหมวดหมู่ของเอกสารต่างๆแล้วแยกเก็บในตู้เอกสารเพื่อสะดวกต่อการค้นหา
3.2 การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์ มีขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการดูแลรักษา ดังนี้
1.การรวบรวมข้อมูล
2.การตรวจสอบข้อมูล
3.การประมวลผลข้อมูให้กลายเป็นสารสนเทศ
4.การดูแลรักาาสาารสนเทศ
5.การสื่อสาาร
4.แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ
4.1 ขอบเขตของการจัดการสารสนเทศ
- การรวบรวมสารสนเทศ เป็นการรวบรวม จัดเก็บสารสนเทศในรูปกระดาษหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากแหล่งต่างๆ
- การจัดหมวดหมู่ เป็นการนำสารสนเทศที่ได้รวบรวมข้อมูลและนำเข้าสู่ระบบมาจัดหมวดหมู่เพื่อการใช้ประโงทรัพยากรสารสนเทศ
- การประมวลผล เป็นการค้นหาและข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศที่ได้รวบรวมและจัดเก็บไว้
เพื่อจัดกลุ่ม จัดเรียง สรุปและวิเคราะห์ตามต้องการ
- การบำรุงรักษา เป้นการนำสารสนเทศที่จัดเก็บไว้มาใช้ซ้ำ
ปัจจัยสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
- เทคโนโลยี มุ่งเน้นเทคโนโลีสารสนเทศ เป็นปัจจัยในการจัดการด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อการประยุกต์ในงานต่างๆ
- คน ในานะองค์ประกอบของทุกหน่วยงาน เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการสารสนเทศ ครอบคลุมทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิัติงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ารสนเทศ
- กระบวนการ เป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน แนวปฏิบัติ วิธีที่ใช้ในการจัดการสารสนเทศ
- การบริหารจัดการ เป็นปัจจัยสำคัญของการจัดการสารสนเทศที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการจัดการในระดับกลยุทธิ์
5.การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับปรุงเพื่อให้ถูกต้องตามกฎระเบียที่วางไว้รวมถึงความต้องการที่จะเปิดใช้บริการใหม่ๆและเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
ที่มา : เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 0026 008 การจัดการสารนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน
วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555
สรุปสาระสำคัญ บทที่3การรู้สารสนเทศ
ความหมาย
การรู้สารสนเทศ (Information Literacy) หมายถึง ความรู้ความสามารถ และทักษะของบุคคลในการเข้าถึงสารสนเทศแหล่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ความเป็นมา
ในทศวรรษที่ 21 เป็นยุคของสังคมฐานความรู้ (Knowledge-based society) ที่เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ทักษะการเรียนรู้ในทศวรรษที่ 21 แบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ คือ
1.ทักษะสารสนเทศและการสื่อสาร
2.ทักษะการคิดและการแก้ปัญหา
3.ทักษะปฏิสัมพันธ์และการชี้นำตนเอง
4.การรับผิดชอบต่อสังคม
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอสารสนเทศในลักษณะต่างๆ ได้แก่
- การรู้สื่อ (media literacy) เป็นความสามารถในการเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์ ประเมิน และสื่อสาร ในรูปแบบที่มีความหลากหลายของสื่อได้
- การรู้คอมพิวเตอร์ (computer literacy) เป็นความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์เพื่อเข้าถึงสารสนเทศ
- การรู้เชิงทัศนะ (visual literacy) เป็นความสามารถในการเข้าใจความหมายและองค์ประกอบต่างๆของภาพที่เห็น
- การรู้ดิจิตอล (digital literacy) เป็นความสามารถเข้าใจและใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆจากแหล่งท่กวางขวางเมื่อมีการนำเสนอผ่านทางคอมพิวเตอร์ และดิจิตอล
- การรู้เครือข่าย (network literacy) เป็นความสามารถจัดการกับสารสนเทศในเครือข่ายรอบโลก เพื่อวิเคราะห์ และแก้ปัญหา เพื่อส่งเสริมชีวิตคุณภาพโดยรวม
- การรู้ห้องสมุด (library literacy)
- การรู้ด้านภาษา (language literacy ) สามารถกำหนดคำสำคัญในการค้น การคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาน การมีคุณธรรม จริยธรรมทางสารสนเทศ
องค์ประกอบของการรู้สารสนเทศ
1.ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศ
2.ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
3.ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดควรใช้สารสนเทศ
4.ความสามารถในการใช้สารสนเทศที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ
คุณลักษณะและความสามารถในการรู้สารสนเทศ
1.ตระหนักถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
2.สามารถกำหนดขอบเขตของสารสนเทศที่จำเป็น
3.เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ประเมินสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศได้
5.นำสารสนเทศที่คัดสรรแล้วสู่พื้นความรู้เดิมได้
6.มีประสิทธิภาพในการใช้สารสนเทศได้ตรงตามวัตถุประสงค์
7.เข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรมและกฎหมายในการใช้สารสนเทศ
8.เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างมีจริยธรรมและถูกกฎหมาย
9.แบ่งประเภทจัดเก็บและสร้างความเหมาะสมให้กับสารสนเทศที่รวบรวมไว้
10.ตระหนักว่าการรู้สารสนเทศช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
มาตรฐานของผู้รู้สารสนเทศ
มาตรฐานที่ 1 ผู้เรียนเข้าถึงสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 2 ผู้เรียนประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาน และอย่างมีความสามารถ
มาตรฐานที่ 3 ผู้เรียนให้สารสนเทศอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การเรียนรู้อย่างอิสระ
มาตรฐานที่ 4 ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู็ ต้องรู้สารสนเทศ และแสวงหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับความสนใจส่วนตัวได้
มาตรฐานที่ 5 ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 6 ผู้เรียนที่มีอิสระในการเรียนรู้
มาตรฐานที่ 7 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศและตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศที่มีต่อสังคมประชาธิปไตย
มาตรฐานที่ 8 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศ และฝึกฝนให้มีพฤติกรรมที่มีจริยธรรม อันเกี่ยวข้องกับสารสนเทศและเทคโลยีสารสนเทศ
ประโยชน์ของการรู้สารสนเทศ
ผู้เรียนส่วนใหญ่มีความสุขและชอบการเรียนสารสนเทศ เพราะได้มีโอกาสแสวงหาความรู้จากแหล่งความรู้ได้ตามที่ตนต้องการ โดยผู้เรียนกำหนดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีโอกาสค้นคว้าศึกษาหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆทั้งจากโลกแห่งความเป็นจริงภายในและภายนอกสถาบันทางการศึกษา และโลกของอิเล็กทรอนิกส์
ที่มา : เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 0026 008 การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน
การรู้สารสนเทศ (Information Literacy) หมายถึง ความรู้ความสามารถ และทักษะของบุคคลในการเข้าถึงสารสนเทศแหล่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ความเป็นมา
ในทศวรรษที่ 21 เป็นยุคของสังคมฐานความรู้ (Knowledge-based society) ที่เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ทักษะการเรียนรู้ในทศวรรษที่ 21 แบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ คือ
1.ทักษะสารสนเทศและการสื่อสาร
2.ทักษะการคิดและการแก้ปัญหา
3.ทักษะปฏิสัมพันธ์และการชี้นำตนเอง
4.การรับผิดชอบต่อสังคม
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอสารสนเทศในลักษณะต่างๆ ได้แก่
- การรู้สื่อ (media literacy) เป็นความสามารถในการเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์ ประเมิน และสื่อสาร ในรูปแบบที่มีความหลากหลายของสื่อได้
- การรู้คอมพิวเตอร์ (computer literacy) เป็นความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์เพื่อเข้าถึงสารสนเทศ
- การรู้เชิงทัศนะ (visual literacy) เป็นความสามารถในการเข้าใจความหมายและองค์ประกอบต่างๆของภาพที่เห็น
- การรู้ดิจิตอล (digital literacy) เป็นความสามารถเข้าใจและใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆจากแหล่งท่กวางขวางเมื่อมีการนำเสนอผ่านทางคอมพิวเตอร์ และดิจิตอล
- การรู้เครือข่าย (network literacy) เป็นความสามารถจัดการกับสารสนเทศในเครือข่ายรอบโลก เพื่อวิเคราะห์ และแก้ปัญหา เพื่อส่งเสริมชีวิตคุณภาพโดยรวม
- การรู้ห้องสมุด (library literacy)
- การรู้ด้านภาษา (language literacy ) สามารถกำหนดคำสำคัญในการค้น การคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาน การมีคุณธรรม จริยธรรมทางสารสนเทศ
องค์ประกอบของการรู้สารสนเทศ
1.ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศ
2.ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
3.ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดควรใช้สารสนเทศ
4.ความสามารถในการใช้สารสนเทศที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ
คุณลักษณะและความสามารถในการรู้สารสนเทศ
1.ตระหนักถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
2.สามารถกำหนดขอบเขตของสารสนเทศที่จำเป็น
3.เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ประเมินสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศได้
5.นำสารสนเทศที่คัดสรรแล้วสู่พื้นความรู้เดิมได้
6.มีประสิทธิภาพในการใช้สารสนเทศได้ตรงตามวัตถุประสงค์
7.เข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรมและกฎหมายในการใช้สารสนเทศ
8.เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างมีจริยธรรมและถูกกฎหมาย
9.แบ่งประเภทจัดเก็บและสร้างความเหมาะสมให้กับสารสนเทศที่รวบรวมไว้
10.ตระหนักว่าการรู้สารสนเทศช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
มาตรฐานของผู้รู้สารสนเทศ
มาตรฐานที่ 1 ผู้เรียนเข้าถึงสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 2 ผู้เรียนประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาน และอย่างมีความสามารถ
มาตรฐานที่ 3 ผู้เรียนให้สารสนเทศอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การเรียนรู้อย่างอิสระ
มาตรฐานที่ 4 ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู็ ต้องรู้สารสนเทศ และแสวงหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับความสนใจส่วนตัวได้
มาตรฐานที่ 5 ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 6 ผู้เรียนที่มีอิสระในการเรียนรู้
มาตรฐานที่ 7 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศและตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศที่มีต่อสังคมประชาธิปไตย
มาตรฐานที่ 8 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศ และฝึกฝนให้มีพฤติกรรมที่มีจริยธรรม อันเกี่ยวข้องกับสารสนเทศและเทคโลยีสารสนเทศ
ประโยชน์ของการรู้สารสนเทศ
ผู้เรียนส่วนใหญ่มีความสุขและชอบการเรียนสารสนเทศ เพราะได้มีโอกาสแสวงหาความรู้จากแหล่งความรู้ได้ตามที่ตนต้องการ โดยผู้เรียนกำหนดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีโอกาสค้นคว้าศึกษาหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆทั้งจากโลกแห่งความเป็นจริงภายในและภายนอกสถาบันทางการศึกษา และโลกของอิเล็กทรอนิกส์
ที่มา : เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 0026 008 การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)